รีวิวน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% Honda PROTECH ULTRA Super Fully Synthetic 4T – น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% ใหม่ล่าสุดจากฮอนด้า –
น้ำมันเครื่องเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่เราผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ควรต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ไม่น้อยไปกว่าส่วนอื่นๆ เพราะน้ำมันเครื่องนั้นมีหน้าที่ช่วยปกป้องชิ้นส่วนของโลหะภายในเครื่องยนต์ ลดการสึกหรอ ทำให้เครื่องยนต์เดินเรียบ และช่วยยืดอายุการใช้งานของรถจักรยานยนต์ ผู้ผลิตส่วนใหญ่จึงมีการเพื่มเติมสารต่างๆ ลงไป เพื่อเพิ่มคุณสมบัติและประสิทธิภาพให้กับน้ำมันเครื่อง จะเห็นได้ว่าการที่จะทำให้รถคู่ใจที่เรารัก มีประสิทธิภาพพร้อมสมรรถนะสูงสุด และยืดอายุการใช้งานนั้น น้ำมันเครื่องนับว่าเป็นปัจจัยที่มีส่วนสำคัญอย่างมากเลยทีเดียว
น้ำมันเครื่องในท้องตลาดตอนนี้นั้นมีมากมายหลายเกรด ตามที่พวกเราคงเคยได้เห็นหรือทดลองใช้กัน แต่ส่วนใหญ่ทั้งหมดจะเป็นน้ำมันเครื่อง Group 3 ที่ซึ่งยังคงมีปิโตรเลียมเป็นส่วนผสมหลักอยู่ แต่ล่าสุดนี้ บริษัท A.P. Honda ประเทศไทย ได้ทำการผลิตน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% และวางจำหน่ายในฮอนด้า บิ๊กวิง, ฮอนด้า วิง เซ็นเตอร์ และตัวแทนจำหน่ายทั่วไป ทั่วประเทศ ที่น่าสนใจเพราะน้ำมันเครื่องตัวนี้ เป็นน้ำมันเครื่องระดับ “Group 4” ผลิตโดยใช้น้ำมันพื้นฐานที่เป็นน้ำมันสังเคราะห์แท้ 100% (Fully Synthetic 100%) ไม่มีส่วนผสมของปิโตรเลียมอยู่เลย ช่วยให้ประสิทธิภาพการใช้งานดียิ่งขึ้น ภายใต้ชื่อ “Honda PROTECH ULTRA Super Fully Synthetic 4T”
และในครั้งนี้ CBRsCLUB ได้รับเกียรติจากทางบริษัท A.P. Honda ประเทศไทย ให้เป็นหนึ่งในผู้ร่วมทดสอบน้ำมันเครื่องตัวใหม่นี้ ซึ่งน่าสนใจเป็นอย่างมาก น่าสนใจยังไงไปดูกันครับ
Honda PROTECH ULTRA Super Fully Synthetic 4T ถูกผลิตมาภายใต้คอนเซ็ปต์ “สุดขีดแห่งพลัง…แรงเร้าใจทุกเส้นทาง” สุดยอดเทคโนโลยีน้ำมันหล่อลื่นสังเคราะห์แท้ 100% พร้อมส่วนผสมพิเศษ ที่คิดค้นโดยฝ่ายวิจัยฮอนด้าญี่ปุ่นให้ทุกหยดตอบสนองความแรงเร้าใจได้ถึงขีดสุด เติมเต็มประสิทธิภาพแห่งการปกป้องเครื่องยนต์ ทนทานต่ออุณหภูมิสูง ช่วยลดการสึกหรอ เพื่อรถจักรยานยนต์ระดับซูเปอร์ไบค์ ที่ไม่เพียง “ฮอนด้า” เท่านั้น แต่สมบูรณ์แบบ…กับทุกรถจักรยานยนต์คู่ใจที่ต้องการสมรรถนะเร้าใจระดับซูเปอร์ในทุกเส้นทาง
ที่นี้มาดูคุณสมบัติของ Honda PROTECH ULTRA Super Fully Synthetic 4T กัน
Honda PROTECH ULTRA Super Fully Synthetic 4T บรรจุอยู่ในขวดพลาสติกสีดำเมทัลลิค ที่แสดงให้เห็นถึงความพรีเมี่ยมของน้ำมันตัวนี้ ขนาดปริมาตรสุทธิ 1 ลิตร จับกระชับมือดี ฉลากด้านหน้าบอกถึงมาตรฐานการรับรองน้ำมันเครื่องตัวนี้คือ JASO MA 10W-30 SL
***JASO ย่อมาจาก (Japanese Automobile Standard Organization) หรือกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ในประเทศญี่ปุ่น
***ค่า “MA” หมายถึง ค่ามาตรฐานสำหรับเครื่องยนต์ที่มีระบบส่งกำลังแบบคลัตช์เปียก
*** W ย่อมาจาก Winter ซึ่งสำหรับน้ำมันเครื่องแล้วหมายถึง ความต้านทานการเป็นไข โดยตัวเลขข้างหน้าตัว W จะหมายถึงค่าที่น้ำมันเครื่องจะสามารถคงความข้นใสไว้ได้
10W = สามารถคงความข้นใสไว้ได้ถึง – 20 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข นั่นหมายความว่าน้ำมันเครื่องตัวนี้จะปกป้องเครื่องยนต์ของเราตั้งแต่เริ่มสตาร์ททันที
***ค่า 30 ต่อจาก W นั้นหมายถึง ค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องตัวเลขยิ่งมาก ยิ่งมีความหนืดสูง เพื่อการใช้งานที่แตกต่างกัน สำหรับค่า 30 นี้เป็นมาตรฐานที่ใช้งานได้ในประเทศไทย และช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากที่สุด
***สุดท้ายค่า SL อันนี้เป็นมาตรฐานการรองรับของ API (American Petroleum Institute) หรือสถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกา
ฉลากด้านหลัง มีการระบุรายละเอียดที่สำคัญหลายอย่าง ดังนี้
– ผลิตโดยใช้น้ำมันพื้นฐานระดับสูง Base Oil Group 4 หรือ PAO (Poly-Alpha Olefin) พร้อมส่วนผสมพิเศษ อีกระดับของการปกป้อง ที่สุดแห่งการหล่อลื่น
– มาตรฐาน MA เด่นชัด ดังที่กล่าวไว้ด้านบน MA หมายถึง ใช้งานได้กับรถมอเตอร์ไซต์ระบบคลัตช์เปียกทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ
– เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คิดค้นและพัฒนาจากฝ่ายวิจัยของฮอนด้า ประเทศญี่ปุ่น
จุดเด่นของ PAO (Poly-Alpha Olefin) คือ
– ความทนต่อการเกิดปฏิกิริยากับออกซิเจนสูง
– ความสิ้นเปลืองหล่อลื่นน้อยเนื่องจากอัตราการระเหยต่ำ
– การเกิดคราบสกปรกเขม่า ในเครื่องยนต์ต่ำ
– ยืดอายุการเปลี่ยนถ่ายน้ามันเครื่องได้มากกว่า
จากคุณสมบัติข้างต้นทำให้น้ำมันเครื่องตัวนี้น่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะโดยส่วนมากแล้วน้ำมันที่ผลิตมาจาก PAO นั้นเราไม่ค่อยจะได้ใช้กันง่ายๆ เพราะมีต้นทุนการผลิตที่สูง แต่ทางบริษัท A.P. Honda จำกัด ได้ทำการผลิตน้ำมันชนิดนี้ขึ้นในประเทศไทย เพื่อตอบสนองการเติบโตแบบก้าวกระโดดของตลาดรถซูเปอร์ไบค์ในไทย ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของคนไทยที่จะได้ใช้น้ำมันเครื่องสำหรับรถมอเตอร์ไซต์ที่มีคุณสมบัติที่ดี และราคาเป็นมิตรเช่นนี้ เอาล่ะ…เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาไปมากกว่านี้ เรามาเริ่มทดสอบกับรถมอเตอร์ไซต์กันเลยดีกว่าครับ
ทดลองใช้กับรถ 3 รุ่น 3 ยี่ห้อ
เราได้นำรถที่มี cc ที่ต่างกัน และกระบอกสูบ 1 และ 2 สูบ ที่นิยมสูงที่สุดในประเทศไทย มาทดสอบเพื่อความหลากหลาย และดูว่าน้ำมันเครื่องตัวนี้ที่ทาง A.P. Honda ทำออกมานั้นจะดีจริงหรือไม่? รถทั้ง 3 รุ่น ที่เข้ามาทำการทดสอบครั้งนี้นั้น มีดังนี้
– KTM Duke 200 ใช้น้ำมันเครื่อง 1.5 ลิตร
– Kawasaki Er6n ใช้น้ำมันเครื่อง 1.8 ลิตร
– Honda CB300F ใช้น้ำมันเครื่อง 1.4 ลิตร
เริ่มเปลี่ยนกันเลย…
แล้วก็นำไปทดสอบกัน เริ่มจากการขับขี่ทางสั้นๆ เครื่องยังไม่ร้อนมาก Duke 200 และ CB300F ที่เป็นรถสูบเดียวนั้นการเข้าเกียร์ยังไม่เห็นผลต่าง แต่เครื่องยนต์เดินเรียบดี การขับขี่มีความสมูทดีมาก ส่วน Er6n รถ 2 สูบรอบจัด ทอร์กสูง ในช่วงแรก เข้าเกียร์ไม่ต่างเช่นกัน เครื่องยนต์เดินเรียบ รถออกตัวดี แต่พอเครื่องเริ่มร้อนเริ่มออกอาการเกียร์แข็ง และเครื่องอืดขึ้น
กลับมาปรับเซทระบบคลัตช์กันใหม่ เพราะ CB300F นั้นพอเครื่องร้อนได้ที่ มีอาการเปลี่ยนเกียร์ยาก วันต่อมาเรานำรถทั้ง 3 คันไปเทสต์กันใหม่ ทางยาวขึ้น มีการใช้เกียร์และเบรกมากขึ้น
และจากการใช้งานที่มีทั้งเบรกและเปิดคันเร่ง สลับกันไปมาๆ การทำงานของเครื่องยนต์นั้นหนักแน่นอน และน้ำมันตัวนี้จะทำได้ดีมั้ย จากการทดสอบของทีมงานก็พบข้อดี ข้อเสีย ดังนี้
Duke 200 และ CB300F
– เข้าเกียร์ง่าย มาทุกเกียร์ (CB300F นั้นพอมีการปรับสายคลัตช์ ปัญหาหายไป)
– เครื่องยนต์เดินเรียบดีทั้งขณะเครื่องเย็น จนไปถึงร้อนจัด
– วิ่งทางไกล ใช้รอบสูงๆ เครื่องยนต์ยังคงเดินเรียบสมูทดี
– ประหยัดน้ำมัน
Er6n
– ออกตัวดี เปลี่ยนเกียร์ไม่มีปัญหา เครื่องยนต์เดินเรียบ
– เครื่องยนต์เดินเรียบดีทั้งขณะเครื่องเย็น จนไปถึงร้อน
– พอเครื่องเริ่มร้อนจัดๆ น้ำมันเครื่องตัวนี้ยังตอบสนองได้ดีพอสมควร
สรุป
จากการทดสอบรถทั้ง 3 คันนั้น เราได้ข้อสรุปว่า น้ำมันเครื่องตัวนี้ทำให้เครื่องยนต์เดินเรียบ สม่ำเสมอได้ดีมากทีเดียว รถสูบเดียว (Duke200/CB300F) นั้นสอบผ่านทั้ง รอบต่ำ รอบสูง เครื่องยนต์ร้อนยิ่งทำงานได้ดี สำหรับรถ 2 สูบ (Er6n) เครื่องยนต์เดินเรียบ สมูทดี ในรอบต่ำนั้น ออกตัวดีเยี่ยม เข้าเกียร์ดี จะมีปัญหานิดหน่อยก็ตอนที่เครื่องยนต์ร้อนจัดๆ มีออกอาการเกียร์เริ่มตึงเป็นบางครั้ง แต่เครื่องยนต์นั้นยังคงเดินเรียบสมูทดี และข้อดีมากๆสำหรับน้ำมันเครื่องตัวนี้ นั้นคงจะเป็นที่ ช่วยให้ประหยัดพลังงาน (น้ำมัน) ได้มากขึ้นจริงๆ และอัตราการระเหยที่ต่ำ ทำให้รถน้ำมันเครื่องพร่องน้อย อายุการใช้งานต่อกิโลฯที่มากขึ้น ทำให้ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้อีก
คงพอมองเห็นภาพคร่าวๆนะครับว่าน้ำมันเครื่องตัวนี้เหมาะกับคุณหรือเปล่า ส่วนตัวทีมงานนั้น ด้วยราคาต่อลิตรที่ไม่แพง บวกกับคุณสมบัติที่ดี ช่วยให้รถประหยัดน้ำมัน และลดมลภาวะ นับว่าเป็นน้ำมันเครื่องที่น่าสนใจมากๆตัวนึงเลย
สุดท้ายนี้
โดยรวมแล้ว Honda PROTECH ULTRA Super Fully Synthetic 4T ตัวนี้เป็นน้ำมันเครื่องสำหรับมอเตอร์ไซต์ที่ดีมากๆตัวนึง ในท้องตลาดตอนนี้เลย ทั้งมาตรฐานการรับรอง ที่มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษ
ถ้าต้องการ การปกป้องที่ดี ทนทาน การลงทุนใช้น้ำมันเครื่องเกรดพรีเมี่ยม ก็เป็นตัวเลือกที่ดี และน่าสนใจสำหรับรถของเรา ทั้งนี้การเลือกใช้น้ำมันเครื่องนั้น ต้องใช้ปัจจัยหลายๆอย่างมากเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ การทดลองใช้และศึกษาก็จะเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคุณ
ขอขอบคุณ
ผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นสังเคราะห์แท้ 100% Honda PROTECH ULTRA Super Fully Synthetic 4T จากทาง A.P. Honda Co., Ltd.
พี่ออฟ – เอื้อเฟื้อสถานที่
PENASPORT – รูปภาพสวยๆ
www.CBRsCLUB.com
ใส่ท่อสูตรแล้วเห็นผลตอนไหน? Next Post:
Spare Part Electronic Catalogue