skull
|
|
« เมื่อ: 10, เมษายน 2013, 06:35:46 PM » |
|
"ใช่อย่างที่กิมบอกครับน้าแกรู้จริงก็ต้องตอบตามนั้น แต่ช่างห่วยๆมักบอกยิ่งบางยิ่งวิ่ง เพราะมันไม่เคยศึกษาเกี่ยวกับคำว่า Lambda A:F Ratio หรืออะไรที่เกี่ยวข้องพวกนี้แน่นอน การจูนให้หนาแล้ววิ่งมันยาก แต่ถ้าทำได้จะได้ม้ามาเพียบและเหนียว
สาเหตุที่ยากคือการยก-เปิดคันเร่ง รวมทั้งความเร็วในการกวาดของรอบเครื่องมันสัมพันธ์กันหรือเปล่า ปัญหานี้ในระบบหัวฉีดแก้ไขง่ายมากโดยการแก้Map แต่กลับยากโคตรในระบบจ่ายน้ำมันแบบคาร์บิวฯ ทางแก้คือเปลี่ยนลักษณะของเข็มเร่ง หรือระดับการยกเข็มเร่งเป็นการแก้ที่ตรงประเด็น แต่ยากเย็นเข็นใจในการจูนให้พอดีกับการขับของแต่ละคน
ลุงของกิมดังได้มีคนชื่มชมทั่วประเทศเพราะตรงนี้แหละครับ ไม่งั้นไม่อยู่ยงจนทุกวันนี้หรอก ความคิดที่ถูกต้อง จะส่งไปถึงการทำที่ถูกต้อง "
"ลูก70 B:S Ratio(อัตราส่วนของความโตกับช่วงชัก) อยู่ที่ 1.48:1เท่านั้น ถือว่าไม่มาก ในรถสปอร์ทระดับ600cc. เรโชนี้สูงถึง 1.6:1เชียวนะครับ
ถ้าใช้ความเร็วสูงสุดไม่มากก็ยิ่งสบาย เพราะจะยิ่งทำให้ขับขี่ง่ายขึ้น สนุกขึ้น ประหยัดขึ้น ที่สำคัญ "ทนกว่าลูกเล็กๆ" งงไหมล่ะ? สามารถเรียกกำลังจากรอบต่ำๆที่เกียร์6ได้โดยไม่ต้องลดเกียร์เพื่อเรียกรอบ สามารถสร้างPowerbandแบบFlattorqueได้ง่ายกว่าลูกเล็กๆ
ดังนั้นจะเล่นไซส์70ไปเลยก็ได้ครับ เสียอย่างเดียวเรื่องค่าใช้จ่ายในการทำที่สูงกว่า เพราะต้องตีปลอกสูบใหม่ "
จากข้อความที่ผมไปอ่านเจอมาที่เค้าคุยเกี่ยวกับเรื่องการแต่งแรงกันเมื่อนานมาแล้ว
ทำให้ผมเกิดคำถามมากขึ้นในใจในหลายๆเรื่อง เช่น
"ลูก70 B:S Ratio(อัตราส่วนของความโตกับช่วงชัก) อยู่ที่ 1.48:1เท่านั้น ถือว่าไม่มาก ในรถสปอร์ทระดับ600cc. เรโชนี้สูงถึง 1.6:1เชียวนะครับ
ถ้าใช้ความเร็วสูงสุดไม่มากก็ยิ่งสบาย เพราะจะยิ่งทำให้ขับขี่ง่ายขึ้น สนุกขึ้น ประหยัดขึ้น ที่สำคัญ "ทนกว่าลูกเล็กๆ" งงไหมล่ะ? สามารถเรียกกำลังจากรอบต่ำๆที่เกียร์6ได้โดยไม่ต้องลดเกียร์เพื่อเรียกรอบ สามารถสร้างPowerbandแบบFlattorqueได้ง่ายกว่าลูกเล็กๆ"
จากประโยคข้างต้นที่ผมอ่านผมตีความได้ราวๆนี้
Powerband = แรงม้า หรือ แรงบิด หว่า (ไม่แน่ใจ)
Flattorque = น่าจะเกี่ยวข้องกับแรงบิด
การทำลูกโตใน cbr จะสามารถสร้างแรงบิดได้สูงในรอบต่ำโดยที่ไม่เหมือนลูกเล็กคือ
ต้องใช้รอบเครื่องสูงมาสร้างแรงบิดแทน เหมือนรถ ครุยเซอร์ กับ รถสปอต ที่เน้นรอบต่ำกับเน้นรอบสูง
แล้วถ้ารถเน้นรอบสูงแบบ cbr มาขยายลูกสูบเหมือนที่เค้าคุยกัน มันจะดูง่ายไปหน่อยรึเปล่า
ไหนจะมีเรื่องกำลังอัดเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ผมอ่านแล้วผมก็เลยงงครับ แล้วผลลัพธ์มันจะออกมาเป็นอย่างไร
รอบต่ำมีแรง แล้วรอบสูงก็แรงมากตาม cc ที่เพิ่มเข้ามา
หรือ ได้แรงรอบต่ำแต่จะเสียรอบสูงไป
แล้วอีกเรื่อง Lambda A:F Ratio นี่อ่านแล้วน่าจะเกี่ยวกับส่วนผสมน้ำมัน
และ การจูนให้หนาแล้ววิ่งมันยาก แต่ถ้าทำได้จะได้ม้ามาเพียบและเหนียว
จากประโยคนี้ก็ทำให้ผมสงสัย เพราะสิ่งที่ผมรู้คือ ถ้าน้ำมันหนาจะมีแรงในช่วงรอบเครื่องต่ำมากเพราะจุดระเบิดได้รุนแรง
แล้วน้ำมันบางจะถูกใช้ในรอบสูงๆเพราะถ้าหนาไปจะทำให้เผาไหม้ไม่หมด (ตามที่ผมเข้าใจ)
และประโยคนี้
"จังหวะ การเปิด-ปิด ของวาล์วไอดี ในจังหวะดูดจะมีผลกับความดันในกระบอกสูบ
ถ้าวาล์วไอดีปิด ที่ศูนย์ตายล่าง พอดี เมื่อลูกสูบ เลื่อนขึ้นก็เริ่มอัดไอดี ที่อยู่ในกระบอกสูบทันที
ความดันที่ได้ก็จะสูงเพราะมีไอดีอยู่เต็มกระบอกสูบ แต่ในความเป็นจริงวาล์วไอดี ไม่ได้ปิดทันทีที่ศูนย์ตายล่าง
แต่ยังคงเปิดต่อไปอีกเล็กน้อย(องศาวาล์วไอดียิ่งมากยิ่งเปิดนานขี้น)
พอลูกสูบเคลื่อนที่ขึ้นก็จะอัดไอดีที่ดูดเข้าไปแล้วกลับออกมาทางวาล์วไอดีที่ยังไม่ปิดสนิท
แต่เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นเฉพาะที่รอบเครื่องยนต์ต่ำเท่านั้น เพราะไอดียังไหลได้ไม่เร็ว ก็ไม่มีโมเมนตัมมากพอ
ที่จะไหลผ่านวาล์วไอดีเข้าไปในกระบอกสูบขณะที่ลูกสูบกำลังเลื่อนขึ้น เมื่อลูกสูบเคลื่อนที่ถึงตำแหน่งศูนย์ตายบน
ความดันที่วัดได้ก็จะต่ำเพราะเหลือไอดีอยู่น้อย "
มันก็จะกลับมาเข้าเรื่องของกำลังอัดในกระบอกสูบ
คือที่ผมสังเกตุเห็นในรถมอเตอร์ไซค์คือความเร็วจะมีค่ากำลังอัดเป็นตัวแปรด้วย
เช่น รถครุยเซอร์ กำลังอัดจะอยู่ที่ 9.5:1 ในขณะที่รถสปอต กำลังอัดจะอยู่ที่ 10up ขึ้นไป ต่อ 1 เช่น 11:1 หรือ 11.5:1 (ซึ่งสูงมาก)
แล้วถ้าเราเพิ่มกำลังอัดให้รถ ครุยเซอร์ จะมีผลอย่างไร (น่าจะมีช่วงชักมาเป็นตัวแปรด้วยนะแต่ผมไม่ค่อยรู้เรื่อง)
ใครที่พอมีความรู้ก็ขอความกรุณาช่วยอธิบายให้เข้าใจหน่อยนะครับ
ไม่จำเป็นต้องตอบให้ตรงคำถามก็ได้ ตอบให้เป็นแนวทางก็ยังดี
ส่วนพวกค่าคำนวนต่างๆ นี่ถ้าอธิบายมาก็ได้โปรดบอกด้วยว่า ค่าตัวไหนมายังไง ไม่งั้นผมงง
ถ้าผมเข้าใจตรงไหนผิดไหนก็โปรดชี้แนะด้วย
(ผมไม่ได้เรียนมาสูงซะด้วยดิ แต่อยากทำความเข้าใจ )
เผื่ออนาคตจะได้แรงแบบมีเหตุมีผล ไม่ใช่สักแต่ลูกใหญ่ชักยาว จะได้รู้ว่ามันกระทำแต่ล่ะอย่างมีผลอย่างไร มีอะไรเกี่ยวข้องบ้าง
ทั้งหมดนี้ คนที่ชื่อ GOOD กับ กิม-DBS เค้าคุยกันในเว็บนี้แหละครับ เป็นความรู้ที่ผมยังตีไม่แตก
ขอบคุณล่วงหน้านะครับ
;) ;) ;) l9
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หมาเฝ้าบอร์ด
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 10, เมษายน 2013, 06:43:09 PM » |
|
ขยันหามาให้อ่านจริงนะครับ <%6 <%6 <%6
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sokuji
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 10, เมษายน 2013, 07:10:56 PM » |
|
ผมเรียนเกือบสุงยังไม่เข้าใจเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
skull
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 10, เมษายน 2013, 07:35:08 PM » |
|
ขยันหามาให้อ่านจริงนะครับ <%6 <%6 <%6
ขอโทษครับ คงรกบอร์ดซินะครับ cryyyyy จริงๆก็อยากไปถามเว็บใหญ่ๆอย่าง pantip แต่มันสมัครยากเหลือเกิน มีเอาสำเนาบัตรด้วย เลยได้แต่อ่าน ถ้ามีใครใจดีก็ฝากเอาไปลงเว็บ พันทิพย์ให้หน่อยนะครับ จะเป็นพระคุณอย่างสูง ผมเรียนเกือบสุงยังไม่เข้าใจเลย
ไม่เข้าใจเพราะการพิมพ์ของผมรึเปล่าหว่า ???
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
A@A
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 10, เมษายน 2013, 07:59:12 PM » |
|
ถ้าเป็นผมนะจะอ่านแล้วปล่อยผ่านไปครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Pongpang
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 10, เมษายน 2013, 08:20:05 PM » |
|
บุคคลระดับ เทพ เค้าคุยกันอะครับ ;D
มันจะทำความเข้าใจยากสำหรับคนธรรมดาๆอย่างเราๆ nooooo
มันเทียบเท่าระดับ วิศวกรรมเครื่องยนต์ เลยนะครับสำหรับบทความนี้ :-\
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
index_v3
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 10, เมษายน 2013, 08:44:33 PM » |
|
รอเทพมาตอบครับ :-\
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอศกรีม
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 10, เมษายน 2013, 09:54:54 PM » |
|
รู้สึกเหมือนว่าตัวเองเขลาขึ้นมาทันที l8
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
darkkorpong
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 10, เมษายน 2013, 11:44:00 PM » |
|
เอากันง่ายๆนะคราบตามที่ผมเข้าใจคือ 1 ท่านจขกท ต้องการสูตรไปแต่งรถใช่ไหมคราบ ถ้าผมเข้าใจผิดต้องขอโทษด้วย ตอบ สูตรแต่งรถมันไม่มีตายตัวหรอกคราบ ทำแล้วคันนั้นดีแต่พอเป็นของเราดันวิ่งไม่ดี สูตรพวกนี้มันต้องคำนวณต่างๆนานาคราบ ทั้งน้ำหนักรถ น้ำหนักคนขับ ตำแหน่งนั่งของคนขับ และอื่นๆต่างๆนานา ทางที่ดีนะคราบ ถ้าท่านจขกทอยากทราบจริงๆก็ไปถามต่อจากกระทู้ที่เขาคุยกันดูคราบ ผมว่าจะได้คำตอบที่เร็วและถูกต้องด้วยคราบ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
deseat_eagle
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 11, เมษายน 2013, 01:58:34 AM » |
|
ค่อยๆ ทำความเข้าใจครับเดี๋ยวก็เทพเอง >konan
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ต้น นครปฐม
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 11, เมษายน 2013, 05:03:57 AM » |
|
>som >som >som ตามที่อ่านมาผมไม่ค่อยเข้าใจหรอกคับว่าอะไรเป้นอะไร แต่ที่พอจะบอกได้ตามที่ได้ศึกษาปัญญาเท่าหางอึ่งของผมนะ ถ้าลุกสุบใหญ่กว่าช่วงชัก จะได้ กำลังที่เราเรียกว่าแรงบิด หมายถึงแรงบิดสูง แต่ถ้าลุกสุบเล็กกว่าช่วงชัก จะได้ แรงม้าที่มาพร้อมกับความประหยัด เท่าที่สังเกตุมาอย่างรถเวฟ ช่วงชักจะยาวมากกว่าลุกสุบจะได้แรงม้าที่มาพร้อมกับความประหยัด และตามที่เคยได้อ่านหนังสือหนังหาประเภทรถจักรยานยนต์เขาก้อแนะนำให้เราทำเครี่องยนต์ หรือเพิ่มขนาดของลุกสุบได้ไม่เกิน5ม.ม วัดจากไซร์สแตนดาร์ดเพราะเกินจากนั้นพังไวกว่าปกติ หลายเท่าตัวหรือพุดง่ายๆว่าไม่เกินไซร์100 โดยประมาณ ถึงจะเหนียวทนได้เกือบเท่า้กับปกติ จะผิดหรือถุกอย่างไงเป้นความคิดเห็นส่วนตัวของผม นะไม่ต้องเอาไปอ้างกับใคร ถึงอ้างไปก้อไม่รุ้จะได้อะไร >%REDD >%REDD >%REDD แต่เท่าที่เคยถามๆมานะคับไม่เคยเห้นช่างคนไหนกล้ารับประกันกับผมซักคนว่า ทำุรถแรงไปแล้วจะเหนียวเท่าของเดิมเลย มีแต่บอกให้ผมใช้เดิมๆอะดีแล้ว เพราะผมมือหนักประเภทแช่ยาวๆเป้น10โลขึ้นไป ไอเร็วๆประเดี๋ยวประด๋าวไม่เอา ขี่แล้วรำคาญหัวใจ บิดได้400เมตร บิดได้โลเดียว ไม่ชอบคับ พังคามือมาก้อหลายคัน เดิมๆยังไม่ไหว(พอมันเก่ามันก้อเริ่มทนไม่ไหว) ใหม่ๆพอสุ้เราไหว ถ้าให้แนะนำการแต่งแรงนะคับ ซื้อไอที่แรงมาตั้งแต่ออกจากร้านเลย บิดไปเถอะ 4-5ปีไม่มีพัง เสียตังค์ครั้งเดียว ขี่ช้าก้อได้ไวๆก้อได้ ไม่ต้องกลัวพัง เห้นมาเยอะคับมิโอวิ่ง160 ไปได้พักเดียว เดี๋ยวก้อไปจอดอยู่ร้าน เผลอๆจอดที่ร้านมากกว่า จอดอยู่ที่บ้านเราเสียอีก ซื้อรถมาไปจอดที่อุ่จอดที่ร้านจะซื้อมาทำไม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
จุดมุ่งหมายครั้งแรกของการมาคลับคืออะไร จงจำไว้ให้มั่นแล้วอย่าลืมเมื่อท่านอยู่นานๆ และคอยเป้นตัวอย่างให้น้องใหม่ๆด้วยคับ
|
|
|
Little_T
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 11, เมษายน 2013, 05:30:31 AM » |
|
>som >som >som ตามที่อ่านมาผมไม่ค่อยเข้าใจหรอกคับว่าอะไรเป้นอะไร แต่ที่พอจะบอกได้ตามที่ได้ศึกษาปัญญาเท่าหางอึ่งของผมนะ ถ้าลุกสุบใหญ่กว่าช่วงชัก จะได้ กำลังที่เราเรียกว่าแรงบิด หมายถึงแรงบิดสูง แต่ถ้าลุกสุบเล็กกว่าช่วงชัก จะได้ แรงม้าที่มาพร้อมกับความประหยัด เท่าที่สังเกตุมาอย่างรถเวฟ ช่วงชักจะยาวมากกว่าลุกสุบจะได้แรงม้าที่มาพร้อมกับความประหยัด และตามที่เคยได้อ่านหนังสือหนังหาประเภทรถจักรยานยนต์เขาก้อแนะนำให้เราทำเครี่องยนต์ หรือเพิ่มขนาดของลุกสุบได้ไม่เกิน5ม.ม วัดจากไซร์สแตนดาร์ดเพราะเกินจากนั้นพังไวกว่าปกติ หลายเท่าตัวหรือพุดง่ายๆว่าไม่เกินไซร์100 โดยประมาณ ถึงจะเหนียวทนได้เกือบเท่า้กับปกติ จะผิดหรือถุกอย่างไงเป้นความคิดเห็นส่วนตัวของผม นะไม่ต้องเอาไปอ้างกับใคร ถึงอ้างไปก้อไม่รุ้จะได้อะไร >%REDD >%REDD >%REDD แต่เท่าที่เคยถามๆมานะคับไม่เคยเห้นช่างคนไหนกล้ารับประกันกับผมซักคนว่า ทำุรถแรงไปแล้วจะเหนียวเท่าของเดิมเลย มีแต่บอกให้ผมใช้เดิมๆอะดีแล้ว เพราะผมมือหนักประเภทแช่ยาวๆเป้น10โลขึ้นไป ไอเร็วๆประเดี๋ยวประด๋าวไม่เอา ขี่แล้วรำคาญหัวใจ บิดได้400เมตร บิดได้โลเดียว ไม่ชอบคับ พังคามือมาก้อหลายคัน เดิมๆยังไม่ไหว(พอมันเก่ามันก้อเริ่มทนไม่ไหว) ใหม่ๆพอสุ้เราไหว ถ้าให้แนะนำการแต่งแรงนะคับ ซื้อไอที่แรงมาตั้งแต่ออกจากร้านเลย บิดไปเถอะ 4-5ปีไม่มีพัง เสียตังค์ครั้งเดียว ขี่ช้าก้อได้ไวๆก้อได้ ไม่ต้องกลัวพัง เห้นมาเยอะคับมิโอวิ่ง160 ไปได้พักเดียว เดี๋ยวก้อไปจอดอยู่ร้าน เผลอๆจอดที่ร้านมากกว่า จอดอยู่ที่บ้านเราเสียอีก ซื้อรถมาไปจอดที่อุ่จอดที่ร้านจะซื้อมาทำไม
>coooool >coooool >coooool ว่าแต่ว่าขี่อย่างพี่คันไหนก้อไม่ไหวครับพี่ต้องขี่เครื่องบิน หรือ ฮอร์ ไปเลย เล่น กทม.- นครปฐม เป็นว่าเล่น ไม่ใช่ ปากเกร็ด - ดอนเมืองนะครับพี่ รักษาสุขภาพด้วยนะครับพี่ต้น เป็นห่วง....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
motosza
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 11, เมษายน 2013, 02:56:54 PM » |
|
เรื้่องตัวเลข ผมว่าไม่มีช่างคนไหนมานั่งวัดจริงๆจังๆหรือ คำนวนกันละเอียดๆหรอก ช่างส่วนมากช่างชอบใช้ความคุ้นเคยหรือความรู้สึกของตัวเอง แต่ผมว่าก็มียกเว้นสำหรับ พวกทีมแข่งดังๆ หรือ พวกที่เงินหนาๆ ^ ^ หรือคนที่ชอบเรื่องนี้จริงๆจังๆ กรณีทำเองไม่ได้
ปล.ลองไปหา อ.GOOD ซิ เพื่อว่าจะได้คำตอบจริงๆจังๆ แกอยู่หลายบอร์ดน่ะจากที่ผมเห็น แกใช่ชื่อว่า GOOD ทุกบอร์ดและ ^ ^
แต่ผมว่าอย่าไปใส่ใจมากเลย บางทีมันอาจจะไม่ใช่ทางของเรา ^ ^ ก็เป็นได้ครับ ทำแรงที่ก็หมดเงินที่ ไหนจะค่าบำรุุงรถที่เพิ่มขึ่น ถ้าจะเอาแรงผมว่าพอประมาณดีกว่าครับ
ความรู้ผมไม่มาก แต่ถ้าพี่คิดจะทำแบบคำณวณจริงๆจังๆ พี่คงต้องวัดกันตั้งแต่ก้านสูบอะ - -*
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
iammink
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 11, เมษายน 2013, 05:05:02 PM » |
|
!sadsad รู้สึกที่ร่ำเรียนมา จะด้อยไปเลยครับ ทั้งๆที่บ้านมีอู่รถยนต์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
skull
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 11, เมษายน 2013, 05:53:00 PM » |
|
เอากันง่ายๆนะคราบตามที่ผมเข้าใจคือ 1 ท่านจขกท ต้องการสูตรไปแต่งรถใช่ไหมคราบ ถ้าผมเข้าใจผิดต้องขอโทษด้วย ตอบ สูตรแต่งรถมันไม่มีตายตัวหรอกคราบ ทำแล้วคันนั้นดีแต่พอเป็นของเราดันวิ่งไม่ดี สูตรพวกนี้มันต้องคำนวณต่างๆนานาคราบ ทั้งน้ำหนักรถ น้ำหนักคนขับ ตำแหน่งนั่งของคนขับ และอื่นๆต่างๆนานา ทางที่ดีนะคราบ ถ้าท่านจขกทอยากทราบจริงๆก็ไปถามต่อจากกระทู้ที่เขาคุยกันดูคราบ ผมว่าจะได้คำตอบที่เร็วและถูกต้องด้วยคราบ
>som >som >som ตามที่อ่านมาผมไม่ค่อยเข้าใจหรอกคับว่าอะไรเป้นอะไร แต่ที่พอจะบอกได้ตามที่ได้ศึกษาปัญญาเท่าหางอึ่งของผมนะ ถ้าลุกสุบใหญ่กว่าช่วงชัก จะได้ กำลังที่เราเรียกว่าแรงบิด หมายถึงแรงบิดสูง แต่ถ้าลุกสุบเล็กกว่าช่วงชัก จะได้ แรงม้าที่มาพร้อมกับความประหยัด เท่าที่สังเกตุมาอย่างรถเวฟ ช่วงชักจะยาวมากกว่าลุกสุบจะได้แรงม้าที่มาพร้อมกับความประหยัด และตามที่เคยได้อ่านหนังสือหนังหาประเภทรถจักรยานยนต์เขาก้อแนะนำให้เราทำเครี่องยนต์ หรือเพิ่มขนาดของลุกสุบได้ไม่เกิน5ม.ม วัดจากไซร์สแตนดาร์ดเพราะเกินจากนั้นพังไวกว่าปกติ หลายเท่าตัวหรือพุดง่ายๆว่าไม่เกินไซร์100 โดยประมาณ ถึงจะเหนียวทนได้เกือบเท่า้กับปกติ จะผิดหรือถุกอย่างไงเป้นความคิดเห็นส่วนตัวของผม นะไม่ต้องเอาไปอ้างกับใคร ถึงอ้างไปก้อไม่รุ้จะได้อะไร >%REDD >%REDD >%REDD แต่เท่าที่เคยถามๆมานะคับไม่เคยเห้นช่างคนไหนกล้ารับประกันกับผมซักคนว่า ทำุรถแรงไปแล้วจะเหนียวเท่าของเดิมเลย มีแต่บอกให้ผมใช้เดิมๆอะดีแล้ว เพราะผมมือหนักประเภทแช่ยาวๆเป้น10โลขึ้นไป ไอเร็วๆประเดี๋ยวประด๋าวไม่เอา ขี่แล้วรำคาญหัวใจ บิดได้400เมตร บิดได้โลเดียว ไม่ชอบคับ พังคามือมาก้อหลายคัน เดิมๆยังไม่ไหว(พอมันเก่ามันก้อเริ่มทนไม่ไหว) ใหม่ๆพอสุ้เราไหว ถ้าให้แนะนำการแต่งแรงนะคับ ซื้อไอที่แรงมาตั้งแต่ออกจากร้านเลย บิดไปเถอะ 4-5ปีไม่มีพัง เสียตังค์ครั้งเดียว ขี่ช้าก้อได้ไวๆก้อได้ ไม่ต้องกลัวพัง เห้นมาเยอะคับมิโอวิ่ง160 ไปได้พักเดียว เดี๋ยวก้อไปจอดอยู่ร้าน เผลอๆจอดที่ร้านมากกว่า จอดอยู่ที่บ้านเราเสียอีก ซื้อรถมาไปจอดที่อุ่จอดที่ร้านจะซื้อมาทำไม
เรื้่องตัวเลข ผมว่าไม่มีช่างคนไหนมานั่งวัดจริงๆจังๆหรือ คำนวนกันละเอียดๆหรอก ช่างส่วนมากช่างชอบใช้ความคุ้นเคยหรือความรู้สึกของตัวเอง แต่ผมว่าก็มียกเว้นสำหรับ พวกทีมแข่งดังๆ หรือ พวกที่เงินหนาๆ ^ ^ หรือคนที่ชอบเรื่องนี้จริงๆจังๆ กรณีทำเองไม่ได้
ปล.ลองไปหา อ.GOOD ซิ เพื่อว่าจะได้คำตอบจริงๆจังๆ แกอยู่หลายบอร์ดน่ะจากที่ผมเห็น แกใช่ชื่อว่า GOOD ทุกบอร์ดและ ^ ^
แต่ผมว่าอย่าไปใส่ใจมากเลย บางทีมันอาจจะไม่ใช่ทางของเรา ^ ^ ก็เป็นได้ครับ ทำแรงที่ก็หมดเงินที่ ไหนจะค่าบำรุุงรถที่เพิ่มขึ่น ถ้าจะเอาแรงผมว่าพอประมาณดีกว่าครับ
ความรู้ผมไม่มาก แต่ถ้าพี่คิดจะทำแบบคำณวณจริงๆจังๆ พี่คงต้องวัดกันตั้งแต่ก้านสูบอะ - -*
ไม่ได้จะแต่งแรงครับแต่อยากได้เป็นความรู้ !cry! เผื่ออยากแรง แต่ดูเหมือนคำถามมันจะยากไป cryyyyy เครื่องจักรใช้งานนานก็ต้องมีวันสึกเหรอ ก็ต้องมีซ่อมบำรุง เพื่อซักวันถึงเวลาของ cbr ผม ผมจะได้ยกระดับมันไปเลย (แรงบันดาลใจผมคงมาจากหนัง Initial D ที่พอรถพระเอกเครื่องพัง พ่อมันจับลงเครื่องรถแข่งซะเลย กะเอาให้ตาย :P) (และเหมือนอาจารย์ผมเคยสอนไว้ว่า รถที่ซ่อมเป็นไปได้ยากที่จะทำให้กลับมา 100% เหมือนเดิม ทั่วไปถ้าดีๆก็ได้ 70% ถ้าจะได้ 100% คงต้องเป็นช่างที่เทพมาก และค่าใช้จ่ายสูงมาก) (ที่ผมใช้คำว่าเหมือนเพราะจำได้แค่ลางๆว่าแกเคยพูด) :o ขอบคุณมากนะครับ เลยกลายเป็นกระทู้รกบอร์ดไปโดยปริยาย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
skull
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 11, เมษายน 2013, 06:00:28 PM » |
|
บุคคลระดับ เทพ เค้าคุยกันอะครับ ;D
มันจะทำความเข้าใจยากสำหรับคนธรรมดาๆอย่างเราๆ nooooo
มันเทียบเท่าระดับ วิศวกรรมเครื่องยนต์ เลยนะครับสำหรับบทความนี้ :-\
รอเทพมาตอบครับ :-\
รู้สึกเหมือนว่าตัวเองเขลาขึ้นมาทันที l8
!sadsad รู้สึกที่ร่ำเรียนมา จะด้อยไปเลยครับ ทั้งๆที่บ้านมีอู่รถยนต์
มันยากขนาดนั้นเลยเรอะครับ เพราะผมก็ไม่เข้าใจ เรียนมาไม่ได้สูง นึกว่าจะเป็นคำถามพื้นๆ-กลางๆ น่าจะพอมีคนอธิบายให้ผมได้ ไม่นึกว่าจะไปเอาถำถามระดับเทพเข้ามาถาม สงสัยคงต้องไปเรียนวิศวะถึงจะเข้าใจ แต่ปัจจุบัน พาย คืออะไรยังไม่รู้เลย ถอดรู๊ด อีกอ่ะคือไรวะ ตายตั้งแต่ยังไม่ทันเดิน !dead ขอบคุณมากครับ l9 l9 l9
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอศกรีม
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 11, เมษายน 2013, 06:30:25 PM » |
|
>som >som >som ตามที่อ่านมาผมไม่ค่อยเข้าใจหรอกคับว่าอะไรเป้นอะไร แต่ที่พอจะบอกได้ตามที่ได้ศึกษาปัญญาเท่าหางอึ่งของผมนะ ถ้าลุกสุบใหญ่กว่าช่วงชัก จะได้ กำลังที่เราเรียกว่าแรงบิด หมายถึงแรงบิดสูง แต่ถ้าลุกสุบเล็กกว่าช่วงชัก จะได้ แรงม้าที่มาพร้อมกับความประหยัด เท่าที่สังเกตุมาอย่างรถเวฟ ช่วงชักจะยาวมากกว่าลุกสุบจะได้แรงม้าที่มาพร้อมกับความประหยัด และตามที่เคยได้อ่านหนังสือหนังหาประเภทรถจักรยานยนต์เขาก้อแนะนำให้เราทำเครี่องยนต์ หรือเพิ่มขนาดของลุกสุบได้ไม่เกิน5ม.ม วัดจากไซร์สแตนดาร์ดเพราะเกินจากนั้นพังไวกว่าปกติ หลายเท่าตัวหรือพุดง่ายๆว่าไม่เกินไซร์100 โดยประมาณ ถึงจะเหนียวทนได้เกือบเท่า้กับปกติ จะผิดหรือถุกอย่างไงเป้นความคิดเห็นส่วนตัวของผม นะไม่ต้องเอาไปอ้างกับใคร ถึงอ้างไปก้อไม่รุ้จะได้อะไร >%REDD >%REDD >%REDD แต่เท่าที่เคยถามๆมานะคับไม่เคยเห้นช่างคนไหนกล้ารับประกันกับผมซักคนว่า ทำุรถแรงไปแล้วจะเหนียวเท่าของเดิมเลย มีแต่บอกให้ผมใช้เดิมๆอะดีแล้ว เพราะผมมือหนักประเภทแช่ยาวๆเป้น10โลขึ้นไป ไอเร็วๆประเดี๋ยวประด๋าวไม่เอา ขี่แล้วรำคาญหัวใจ บิดได้400เมตร บิดได้โลเดียว ไม่ชอบคับ พังคามือมาก้อหลายคัน เดิมๆยังไม่ไหว(พอมันเก่ามันก้อเริ่มทนไม่ไหว) ใหม่ๆพอสุ้เราไหว ถ้าให้แนะนำการแต่งแรงนะคับ ซื้อไอที่แรงมาตั้งแต่ออกจากร้านเลย บิดไปเถอะ 4-5ปีไม่มีพัง เสียตังค์ครั้งเดียว ขี่ช้าก้อได้ไวๆก้อได้ ไม่ต้องกลัวพัง เห้นมาเยอะคับมิโอวิ่ง160 ไปได้พักเดียว เดี๋ยวก้อไปจอดอยู่ร้าน เผลอๆจอดที่ร้านมากกว่า จอดอยู่ที่บ้านเราเสียอีก ซื้อรถมาไปจอดที่อุ่จอดที่ร้านจะซื้อมาทำไม
พี่ต้นสนใจขับรถไฟไหมครับ จะพาไปเทโค้งบนราง >som >som >som
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NOKLEK
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 11, เมษายน 2013, 06:33:40 PM » |
|
ช่วงชักที่ยาว รอบที่ต่ำ จะได้ความละเอียดในการดูดไอดี ในทางปฎิบัติ ก็จะได้ไอดีเต็มๆ การจุดระเบิดในแต่ละครั้ง ได้แรงประสิทธิภาพสูง ช่วงชักสั้น การดูดไอดีไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าช่วงชักที่ยาว แต่ ตับเป็ดใช้รอบในการหมุนน้อยกว่า แรงต้านจากการหมุนน้อยกว่า จึงทำให้รอบสูงสุดเยอะกว่า
ช่วงชักที่ยาว ถ้าปั่นรอบสูงๆ จะทำให้ลูกสูบเดินทางในกระบอกสูบไม่ทัน มีโอกาสที่ก้านสูบจะขาดสูง (พวกรถคลุยเซอร์ จึงมีรอบสูงสุดที่ต่ำ) ช่วงชักที่สั้น จะสามารถปั่นรอบได้สูง เพราะลูกสูบเดินทาง (ขึ้น-ลง) ได้รวดเร็วกว่า
ลูกสูบที่ใหญ่ การจุดระเบิดจะทั่วถึงกว่าลูกสูบเล็ก (ไฟจะลุกไหม้จากบนลงล่าง)
กำลังอัด คืออัตราส่วนในการบีบอัดไอดี ถ้า 9:1 ก็คือ ดูดไอดีมาจนเต็มห้องเผาไหม้ แล้วอัดไอดีให้เหลือแค่ 1 ใน 9 (คิดภาพตามถึงการทุบกระป๋องน้ำอัดลม) ยิ่งอัดมาก การจุดระเบิดก็จะยิ่งรุนแรง แต่ การอัดไอดีมากๆ ก็จะเกิดการเสียดสีของโมเลกุลมาก จึงมีโอกาสที่ไอดีจะลุกไหม้ก่อนที่จะถึงจังหวะการจุดระเบิด ซึ่งจะสัมพันธ์กับค่าอ๊อคเทนของน้ำมัน (ค่าการทนไฟ) ยิ่งกำลังอัดสูงๆ ก็ต้องใช้ค่าอ๊อคเทนสูงๆ (95,100,110 พวกหลังๆต้องผสมน้ำมันเอง หรือมีจำหน่ายตามสนามแข่ง)
รถครุยเซอร์ รวมถึงรถครอบครัว เน้นประหยัดน้ำมัน และถึก จึงมีกำลังอัดที่น้อย รอบไม่จัด ช่วงชักยาว
Power band คือ จุดตัดของกราฟแรงบิดกับกราฟแรงม้า (อันนี้ไม่ชัวร์ครับ) ในทางปฎิบัติ คือ ถ้าเปลี่ยนเกียร์ขึ้นแล้วให้รอบเครื่องมาตกที่รอบเครื่องตรงจุดตัดนั้น จะเป็นจุดที่รถมีอัตราเร่งดีที่สุด
*ถ้าเพิ่มกำลังอัดให้กับรถครุยเซอร์ที่มากเกินไป ก็มีความเสี่ยงที่ก้านสูบจะขาดครับ แล้วก็รถครอบครัวและครุยเซอร์ จะเน้นไปที่แรงบิดมากกว่าแรงม้าครับ ถ้ามองแบบง่ายๆก็ แรงบิด เป็นแรงที่ทำรถเพิ่มจากความเร็วหนึ่งไปสู่ความเร็วหนึ่ง แรงม้า เป็นหน่วยวัดงานสูงสุดของเครื่องยนต์ ก็คือจะสัมพันธ์กับความเร็วสูงสุดที่รถจะทำได้
ถ้าจะเพิ่มเติมก็คือ ถ้ารถสองคัน วิ่งได้ 100 กม./ชม. คันที่มีแรงบิดสูงกว่า จะวิ่งไปแตะที่ความเร็ว 100 กม./ชม. ก่อน
ไม่ได้ใช้ศัพท์วิชาการอะไรมาก แค่อธิบายปูพื้น ถ้าผู้ที่มีความรู้สูงกว่า กรุณาเข้าใจ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ลูกผู้ชาย ถึงจะตายในท่อ ก็ต้องมุดไปตายเอาดาบหน้า
|
|
|
skull
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 11, เมษายน 2013, 08:20:06 PM » |
|
ช่วงชักที่ยาว รอบที่ต่ำ จะได้ความละเอียดในการดูดไอดี ในทางปฎิบัติ ก็จะได้ไอดีเต็มๆ การจุดระเบิดในแต่ละครั้ง ได้แรงประสิทธิภาพสูง ช่วงชักสั้น การดูดไอดีไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าช่วงชักที่ยาว แต่ ตับเป็ดใช้รอบในการหมุนน้อยกว่า แรงต้านจากการหมุนน้อยกว่า จึงทำให้รอบสูงสุดเยอะกว่า
ช่วงชักที่ยาว ถ้าปั่นรอบสูงๆ จะทำให้ลูกสูบเดินทางในกระบอกสูบไม่ทัน มีโอกาสที่ก้านสูบจะขาดสูง (พวกรถคลุยเซอร์ จึงมีรอบสูงสุดที่ต่ำ) ช่วงชักที่สั้น จะสามารถปั่นรอบได้สูง เพราะลูกสูบเดินทาง (ขึ้น-ลง) ได้รวดเร็วกว่า
ลูกสูบที่ใหญ่ การจุดระเบิดจะทั่วถึงกว่าลูกสูบเล็ก (ไฟจะลุกไหม้จากบนลงล่าง)
กำลังอัด คืออัตราส่วนในการบีบอัดไอดี ถ้า 9:1 ก็คือ ดูดไอดีมาจนเต็มห้องเผาไหม้ แล้วอัดไอดีให้เหลือแค่ 1 ใน 9 (คิดภาพตามถึงการทุบกระป๋องน้ำอัดลม) ยิ่งอัดมาก การจุดระเบิดก็จะยิ่งรุนแรง แต่ การอัดไอดีมากๆ ก็จะเกิดการเสียดสีของโมเลกุลมาก จึงมีโอกาสที่ไอดีจะลุกไหม้ก่อนที่จะถึงจังหวะการจุดระเบิด ซึ่งจะสัมพันธ์กับค่าอ๊อคเทนของน้ำมัน (ค่าการทนไฟ) ยิ่งกำลังอัดสูงๆ ก็ต้องใช้ค่าอ๊อคเทนสูงๆ (95,100,110 พวกหลังๆต้องผสมน้ำมันเอง หรือมีจำหน่ายตามสนามแข่ง)
รถครุยเซอร์ รวมถึงรถครอบครัว เน้นประหยัดน้ำมัน และถึก จึงมีกำลังอัดที่น้อย รอบไม่จัด ช่วงชักยาว
Power band คือ จุดตัดของกราฟแรงบิดกับกราฟแรงม้า (อันนี้ไม่ชัวร์ครับ) ในทางปฎิบัติ คือ ถ้าเปลี่ยนเกียร์ขึ้นแล้วให้รอบเครื่องมาตกที่รอบเครื่องตรงจุดตัดนั้น จะเป็นจุดที่รถมีอัตราเร่งดีที่สุด
*ถ้าเพิ่มกำลังอัดให้กับรถครุยเซอร์ที่มากเกินไป ก็มีความเสี่ยงที่ก้านสูบจะขาดครับ แล้วก็รถครอบครัวและครุยเซอร์ จะเน้นไปที่แรงบิดมากกว่าแรงม้าครับ ถ้ามองแบบง่ายๆก็ แรงบิด เป็นแรงที่ทำรถเพิ่มจากความเร็วหนึ่งไปสู่ความเร็วหนึ่ง แรงม้า เป็นหน่วยวัดงานสูงสุดของเครื่องยนต์ ก็คือจะสัมพันธ์กับความเร็วสูงสุดที่รถจะทำได้
ถ้าจะเพิ่มเติมก็คือ ถ้ารถสองคัน วิ่งได้ 100 กม./ชม. คันที่มีแรงบิดสูงกว่า จะวิ่งไปแตะที่ความเร็ว 100 กม./ชม. ก่อน
ไม่ได้ใช้ศัพท์วิชาการอะไรมาก แค่อธิบายปูพื้น ถ้าผู้ที่มีความรู้สูงกว่า กรุณาเข้าใจ
ขอบคุณมากครับ เข้าใจขึ้นเยอะเลยในเรื่องช่วงชักเนี่ย แล้ว " ถ้าจะเพิ่มเติมก็คือ ถ้ารถสองคัน วิ่งได้ 100 กม./ชม. คันที่มีแรงบิดสูงกว่า จะวิ่งไปแตะที่ความเร็ว 100 กม./ชม. ก่อน" แต่รถที่มีแรงม้ามากกว่าจะสามารถไต่ระดับความเร็วสูงสุด(งาน)ไปได้ไกลกว่า ถึงจะเร่งได้ช้ากว่า ใช่มั้ยครับ ??? (ไม่รู้เข้าใจถูกรึเปล่า) แต่ขอบคุณมากครับ เป็นความรู้มากๆ ;) ;) ;) l9 l9 l9
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NOKLEK
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 12, เมษายน 2013, 01:30:29 AM » |
|
ความเร็วสูงสุดจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แรงม้าเป็นแค่ปัจจัยหนึ่งครับ แต่ที่เข้าใจ ก็ไม่ถึงกับผิดครับ
ความเร็ว เกิดจากแรงที่กระทำต่อวัตถุ (รวมถึงน้ำหนักของวัตถุ และพอเกิดความเร็วก็จะเกิดแรงต้านอากาศอีก) เครื่องยนต์มีหน้าที่ผลิตแรง ซึ่งเป็นแค่ปัจจัยหนึ่งของความเร็วครับ
ถ้ารถน้ำหนักเท่ากัน รถที่มีแรงม้ามากกว่าก็จะมีความเร็วสูงสุดที่มากกว่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ลูกผู้ชาย ถึงจะตายในท่อ ก็ต้องมุดไปตายเอาดาบหน้า
|
|
|
|